ช่วยกาชาด อีกแบบ แค่เติมน้ำมันก็ช่วยได้ ไทยช่วยไทย

834990

“…ขณะนี้ทางสภากาชาดไทย มีรถรับบริจาคโลหิตเพียง 8 คัน โดยส่งไปขอรับบริจาคที่เชียงใหม่ 1 คัน ภูเก็ต 1 คัน สงขลา 1 คัน ชลบุรี 1 คัน นครราชสีมา 1 คัน และที่เหลือประจำอยู่ที่กรุงเทพฯ จำนวน 3 คัน หากมีรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่มากกว่าที่เป็นอยู่จะทำให้ทางสภากาชาด ไทยสามารถรับบริจาคโลหิตได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมาก“ …นี่เป็นส่วนหนึ่งจากการระบุของ พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

ระบุถึง ’จำนวนรถรับบริจาคโลหิต“ ขณะนี้

ที่ยัง ’มีอยู่น้อยมาก“ หากเทียบกับภารกิจ

ในฐานะ “หน่วยงานบริการโลหิตแห่งชาติ”

เกี่ยว กับเรื่องนี้ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ระบุว่า…หลังจากทางสภากาชาดไทยได้ประชาสัมพันธ์ ตลอดจนสื่อต่าง ๆ ช่วยกันรณรงค์เกี่ยวกับ ’การขาดแคลนโลหิต“ ทำให้สถาน การณ์ในภาพรวมดีขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาในบางด้าน โดยเฉพาะ “ความไม่สม่ำเสมอ” ของการบริจาคโลหิตที่พบว่า…บางช่วงเวลาและบางวันยังขาดแคลนโลหิตบางหมู่ อยู่ ซึ่งเกิดจาก “ความเข้าใจผิด” เนื่องจากปัจจุบันนี้ประชาชนนิยมใช้การส่งข่าวหรือกระจายข่าวผ่านทางโซ เชี่ยลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊ก เพื่อขอความช่วยเหลือในการขอรับบริจาคโลหิตกันเองมากขึ้น ทำให้หลาย คนคิดว่า…หมู่เลือด-กรุ๊ปเลือดอื่น ๆ ที่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ นั้นยังคงมีพอเพียง ยังไม่ต้องการ หรือยังไม่เกิดปัญหาการขาด แคลนโลหิต

ทำให้หลาย ๆ คนไม่ได้เข้ามาบริจาคโลหิต

จนโลหิตหรือเลือดกรุ๊ปอื่น…เกิดขาดแคลน

’อยาก ขอให้ทุกคนคิดว่า…การบริจาคโลหิตนี้เป็นหน้าที่ของพลเมืองที่ดี อยากให้นึกทุกครั้งที่เดินผ่านโรงพยาบาลว่า…ยังมีผู้ป่วยที่รอคอยและต้อง การใช้โลหิตอยู่ เนื่องจากเรื่องโลหิตนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะแค่กรณีอุบัติเหตุ แต่ยังใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง และโรคเลือดด้วย ยิ่งการรักษาพัฒนาไปมากขึ้นเท่าไหร่ ความต้องการใช้โลหิตก็เพิ่มขึ้นด้วย การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ การเปลี่ยนสเต็มเซลล์นั้นก็ล้วนต้องอาศัยโลหิตมาใช้เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย ช่วยคนไข้ให้ผ่านวิกฤติชีวิตทั้งสิ้น“

…เป็นการระบุถึงกรณีปัญหา โลหิต และ พญ.สร้อยสอางค์ ยังกล่าวอีกว่า…สำหรับความต้องการโลหิตพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น จะต้องรับบริจาคให้ได้ประมาณ 1,800 ยูนิตต่อวัน ซึ่งเป็นความต้องการราว 1 ใน 3 จากทั้งประเทศ ฉะนั้นหากจะให้เพียงพอกับ “ความต้องการโลหิต” จะต้องมีคนมาบริจาควันละ 1,800 คน ส่วนในต่างจังหวัดนั้น มีความต้องการใช้โลหิตอยู่ที่ราว 2 ใน 3 ดังนั้นจำนวนผู้บริจาคโลหิตก็ต้องเพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งขณะนี้พบว่า…ยังคงมีปัญหาการขาดแคลนโลหิตอยู่ บางครั้งก็ยังเกิดกรณี “โลหิตมีไม่พอ”

คำตอบเรื่องนี้อาจอยู่ที่ “รถบริจาคโลหิต”

ทั้ง นี้ เกี่ยวกับปัญหา “รถรับบริจาคโลหิตมีไม่เพียงพอ” ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ “โลหิตมีไม่เพียงพอ” นั้น ขณะนี้ก็ได้มีหลายฝ่ายพยายามเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาปัญหา…โดย วิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า…ในโอกาสที่บริษัทครบรอบ 30 ปี จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความช่วยเหลือให้กับทางสภา กาชาดไทย ผ่านโครงการ “เราคนไทยใช้บางจาก ช่วยกาชาด 30 ล้าน” เพื่อ จัดซื้อ “ชุดรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่” ซึ่งประกอบด้วย รถตู้รับส่งเจ้าหน้าที่ 1 คัน, รถตู้ขนอุปกรณ์ 1 คัน, รถตู้เย็น สำหรับแช่โลหิต 1 คัน, รถบัสรับบริจาคโลหิต พร้อมอุปกรณ์ประจำรถ 1 คัน และน้ำมันสำหรับเติมรถรับบริจาคโลหิต รวมถึงสนับสนุนการ จัดซื้อ “เครื่องมือทางการแพทย์” เพื่ออาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้วย…

’โครงการดังกล่าวจะดำเนินการไปจนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2558 โดยจะนำรายได้จากการจำหน่ายน้ำมัน และน้ำมันหล่อลื่น รวม 30 ล้านบาท ไปซื้อรถรับบริจาคโลหิตและเครื่องมือทางการแพทย์ให้สภากาชาดไทย ถือเป็นกิจกรรมที่ทุกคนจะได้ทำความดีร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือสังคม“

ด้าน ม.ร.ว.ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ ผู้ช่วยเลขาธิการสภา กาชาดไทย ฝ่ายจัดหารายได้ กล่าวเชิญชวนประชาชนให้ร่วมบริจาคผ่านกิจกรรมดังกล่าวว่า…’ขอให้ประชาชน มั่นใจว่า…เงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับบริจาคนั้น ทางสภากาชาดไทยจะนำไปใช้ในโครงการสาธารณกุศลที่มีประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็ม หน่วย และอย่างโปร่งใส สมกับเจตนารมณ์ของทุกท่านอย่างแน่นอน“

“โลหิต” ทางการแพทย์นั้น…สำคัญอย่างมาก

“พาหนะรับบริจาคโลหิต”…ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ใคร “คิดดี-อยากทำดี”…ทำรูปแบบนี้ก็ดี!!!.